R-134a (tetrafluoroethane – CF3CH2F) เป็นสารทำความเย็นกลุ่มอีเทน ซึ่งโมเลกุลของอีเทนประกอบด้วยคาร์บอน 2 อะตอม และไฮโดรเจน 6 อะตอม เมื่อเปลี่ยนไฮโดรเจนด้วยฟลูโอรีนจำนวน 4 อะตอมจะได้เป็น R-134a ราคา จะสูงกว่า ซึ่งเป็นสาร HFC เป็นสารทำความเย็นที่ถูกพัฒนามาใช้แทนสาร CFC
R-717 (ammonia – NH3) เป็นสารทำความเย็นชนิดเดียวที่ไม่อยู่ในกลุ่มฟลูออโรคาร์บอน แต่นิยมใช้แพร่หลาย มีจุดเดือด -28°F (-33.3°C) ที่ความดันบรรยากาศ แอมโมเนียจัดเป็นสารพิษ และมีความสามารถติดไฟได้ มีระดับความปลอดภัย B2 แอมโมเนียมีความสามารถในการทำความเย็น (refrigerating effect) สูงจึงนิยมใช้กับระบบทำความเย็นขนาดใหญ่ แอมโมเนียเมื่อรวมตัวกับน้ำหรือความชื้นจะกัดกร่อนโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก (nonferrous metals) เช่น ทองเหลือง ทองแดง แอมโมเนียไม่รวมตัวกับน้ำมันหล่อลื่น ในกรณีที่เกิดการรั่วจึงไม่มีผลต่อระดับของน้ำมันหล่อลื่นในคอมเพรสเซอร์
R-11 (CCI3F) เป็นสารทำความเย็นกลุ่มฟลูออโรคาร์บอน มีจุดเดือด 74.7°‑F (23.7°C) ที่ความดันบรรยากาศ สามารถทำงานได้ที่ความดันต่ำมากคือความดันด้านต่ำจะต่ำกว่าความดันบรรยากาศ เมื่อเกิดการรั่วในระบบจะทำให้ความดันในระบบสูงขึ้นเนื่องจากมีอากาศเข้าไปในระบบ นิยมใช้กับระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ที่ใช้คอมเพรสเซอร์แบบแรงเหวี่ยงหนศูนย์กลาง ใช้เป็นสารสำหรับล้างระบบเมื่อคอมเพรสเซอร์ไหม้ ไม่กัดกร่อนโลหะ ไม่เป็นพิษ และไม่ติดไฟ มีระดับความปลอดภัย A1
R-12 (CCI2F2) เป็นสารทำความเย็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายโดยบริษัทดูปองก์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) เนื่องจากเป็นสารที่มีความปลอดภัย ไม่ติดไฟ มีระดับความปลอดภัย A1 แต่ห้ามสารทำความเย็น R-12 สัมผัสกับเปลวไฟ เพราะจะกลายเป็นสารพิษได้ มีจุดเดือด -21.6°F (-29.8°C) ที่ความดันบรรยากาศ ใช้งานได้ทั้งระบบที่มีอุณหภูมิสูง ปานกลาง และต่ำ R-12 รวมตัวกับน้ำมันหล่อลื่น(
lube oil)
ได้ดีในทุกสภาวะ ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องน้ำมันหล่อลื่นค้างในระบบ สารทำความเย็น/ น้ำยาแอร์ สามารถพาน้ำมันหล่อลื่น(
lube oil)
กลับคอมเพรสเซอร์ได้ดี โดยเฉพาะจะไม่มีฟิล์มน้ำมันจับเคลือบที่ผิวท่อ ทำให้ประสิทธิภาพในการถ่ายเทความร้อนดี R-12 มีอัตราการทำความเย็นต่ำจึงมีขนาดของอุปกรณ์ใหญ่กว่า แต่มีข้อดีคือทำงานได้ที่ความดันต่ำ นิยมใช้ทั่วไป เช่น ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องปรับอากาศรถยนต์ เป็นต้น
R-22 (CHCIF2) เป็นสารกลุ่มฟลูออโรคาร์บอน มีค่าความปลอดภัยระดับ A1 มีจุดเดือด -41.4° (-40.8°C) ที่ความดันบรรยากาศ เมื่อเทียบกับ R-12 แล้ว R-22 จะทำงานทีความดันสูงกว่า แต่ใช้คอมเพรสเซอร์มีขนาดเล็กกว่าเพราะมีปริมาตรจำเพาะน้อยกว่า R-22 สามารถรวมกับน้ำมันหล่อลื่น(
lube oil)
ได้ แต่จะแยกตัวออกอุณหภูมิต่ำเมื่ออยู่ในเครื่องระเหย ใช้กับเครื่องทำความเย็น เครื่องปรับอากาศทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ทั่วไปยี่ห้อชั้นนำทั่วไป เช่น แอร์ Mitsubishi, แอร์ Panasonic , แอร์ Samsung, แอร์ daikin, แอร์ LG, แอร์ Saijo Denki
R-134s (CF3CH2F) เป็นสารกลุ่มฟลูออโรคาร์บอน มีค่าความปลอดภัยระดับ A1 มีจุดเดือด -15° (-26.2°C) ที่ความดันบรรยากาศ เป็นสารทำความเย็นที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้แทน R-12 ซึ่งได้ถูกยกเลิกตามข้อบังคับของพิธีสารมอนทรีออล R-134a มีคุณสมบัติในการรวมตัวกับน้ำได้ดี (water solubility) โอกาสที่จะเกิดน้ำแยกตัวออกจากสารทำความเย็นไปเป็นน้ำแข็งอุดตันลิ้นลดความดันได้ และเนื่องจากไม่สามารถ
โดยยังมี น้ำยาแอร์ อีกหลากหลายชนิด ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มการพัฒนามุ่งเน้นการประหยัดพลังงาน และ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น